ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดพิธีประกาศสำเร็จการศึกษา มอบขีดหมวกพยาบาลและเข็มราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สำหรับบัณฑิตพยาบาลศาสตร์ รุ่นที่ 3 พร้อมปฏิบัติงานตามปรัชญา “เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต”
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดพิธีประกาศสำเร็จการศึกษา
มอบขีดหมวกพยาบาลและเข็มราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
สำหรับบัณฑิตพยาบาลศาสตร์ รุ่นที่ 3
พร้อมปฏิบัติงานตามปรัชญา “เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต”
วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดพิธีประกาศสำเร็จการศึกษา
มอบขีดหมวกพยาบาลและเข็มราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สำหรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต
รุ่นที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2565
และมอบเกียรติบัตรรางวัล WISH AWARD ให้กับนักศึกษาที่มีความโดนเด่นในอัตลักษณ์ของบัณฑิตวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี
คือ รอบรู้ พัฒนา จิตอาสา นำพาความสุข
พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรแก่นักศึกษาที่สร้างชื่อเสียงด้านต่างๆ ให้กับสถาบัน
โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา บุญทอง
คณบดีวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
เป็นประธานในพิธีและกล่าวแสดงความยินดี ให้โอวาทแก่นักศึกษาผู้สำเร็จการศึกษา
จำนวน 62 คน พร้อมด้วยคณาจารย์
ผู้ปกครองและแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีอันทรงเกียรติ ณ หอประชุม CRA
Hall ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
พิธีประกาศสำเร็จการศึกษา มอบขีดหมวกพยาบาลและเข็มราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ถือเป็นพิธีการที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ เป็นการสืบสานวัฒนธรรมที่งดงามของวิชาชีพพยาบาล
เพราะขีดหมวกถือเป็นสัญลักษณ์ของพยาบาลผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต
แสดงถึงความพร้อมในการปฏิบัติการพยาบาล มีความรับผิดชอบต่อตนเอง
ต่อวิชาชีพพยาบาลและมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน
ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลทุกคนจึงต้องยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม
จรรยาบรรณและมาตรฐานของวิชาชีพ
เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชนและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
เข็มราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
เป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจในสถาบันที่สำเร็จการศึกษา
เป็นสัญลักษณ์ให้นักศึกษาตระหนักถึงวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร
จากศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ก่อกำเนิดด้วยพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร.
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
ที่มีพระประสงค์ในการสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ในการขจัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร ทั้งนี้ ได้รับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต
รุ่นแรกในปีการศึกษา 2560 โดยมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถ
รอบรู้ในศาสตร์ทางการพยาบาลและศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
มีคุณธรรมจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพการพยาบาล มีอุดมการณ์
มีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อวิชาชีพ
รวมทั้งเป็นพลเมืองดีที่สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม ภายใต้อัตลักษณ์ รอบรู้
พัฒนา จิตอาสา นำพาความสุข ซึ่งหมายถึงการมีความรู้และสามารถแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง
เพื่อพัฒนาคุณภาพการพยาบาลด้วยกระบวนการวิจัย มีจิตอาสาในการทำงานเพื่อส่วนรวม
เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีและสามารถสร้างความสุขให้กับตนเองและผู้อื่น
โอกาสนี้ นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณทิต 4 ท่านที่ได้รับเกียรติบัตรรางวัล WISH AWARD ได้แก่ นายธนทัต
สิงห์คำ นางสาวอรอร เดือนเพ็ญนายทนงศักดิ์ พันจำปา และนางสาวศุภานน แซ่จ่าว ได้กล่าวถึงความรู้สึกตลอด
4 ปี
ธนทัต: อันดับแรกก็คือ
ได้เพื่อนที่น่ารักและได้มิตรภาพจากทั้งทางอาจารย์และเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน
เพราะที่นี่ไม่ได้โฟกัสแค่เรื่องความรู้ อาจารย์ก็เป็นที่ปรึกษาให้เราตลอด รวมถึงโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่การงานสามารถนำไปต่อยอดในด้านต่างๆ
ได้ในอนาคต
อรอร: ได้รับทั้งความรู้ ความผูกพันและความรักจากการเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี
โดยที่นี่สั่งสมให้นักศึกษาเป็นคนดีแล้วก็รักที่จะให้บริการกับผู้ป่วยหลังจากที่เราสำเร็จการศึกษาไป
ทนงศักดิ์: ฝึกฝนให้เราได้กล้าแสดงออกมากขึ้น
มีการพัฒนาตัวเองอยู่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังเน้นในเรื่องของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
โดยนักศึกษาได้ฝึกคิดวิเคราะห์ เพื่อที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาต่อยอดพัฒนาวิชาชีพการพยาบาลต่อไป
ศุภานน: ได้ความรู้และการใช้ชีวิต
รวมถึงการสร้างตัวตนของเราให้มีความมั่นใจให้ในตนเองและการพัฒนาตนเองในการสร้างอาชีพ
ทั้งหมดเตรียมรับมือกับความท้าทายในวิชาชีพอย่างไร?
ธนทัต: ต้องเวิร์กไลฟ์บาลานซ์
ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพราะหากเราซึ่งเป็นผู้ที่จะไปดูแลรักษาคนไข้เป็นพยาบาลที่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีแล้ว
คนไข้ก็จะได้รับการพยาบาลที่ดีทั้งกายและใจด้วยเช่นกัน
อรอร: อย่างแรกเราต้องเริ่มที่จิตใจของเราก่อน
ถ้าเรามีความตั้งใจมีความเชื่อมั่น ทำในสิ่งที่รัก ก็จะไม่รู้สึกเหนื่อยและท้อ
ทนงศักดิ์: ในเรื่องของความท้าทาย
จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องของการทำงานที่ยาวนาน ประกอบกับคนไข้ที่มากขึ้นด้วย ทั้งนี้เราได้รับการฝึกฝนมาตลอด
4 ปีในการเรียน ทำให้มีการรับมือได้ครอบคลุมหลายสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ดังนั้นอาจจะมีในเรื่องของการปรับตัวเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า ที่ทำให้เรารับมือได้ดียิ่งขึ้น
ทำให้ความท้าทายที่เป็นเรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา
ศุภานน: สถานการณ์ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงของพยาบาลเกิดขึ้นมาก
สิ่งเดียวที่จะทำให้พยาบาลก้าวข้ามสู่การพยาบาลที่มีคุณภาพต้องเริ่มจากตัวเราเองโดยต้องมุ่งมั่นในการทำงานและทำตามบทบาทหน้าที่ของเราอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น