ก.อุตฯ ชง ครม. ไฟเขียวเดินหน้ายกระดับข้าว-โคเนื้อ 'สนุกไรซ์พลัส-บีฟวัลเลย์' ทุ่ม 113 ล้าน หวังสร้างมูลค่า 1.1 พันล้าน

 



ก.อุตฯ ชง ครม. ไฟเขียวเดินหน้ายกระดับข้าว-โคเนื้อ 'สนุกไรซ์พลัส-บีฟวัลเลย์' ทุ่ม 113 ล้าน หวังสร้างมูลค่า 1.1 พันล้าน



นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบและเห็นชอบในหลักการโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน (กรอ.) ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรวบรวมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ได้แก่ จังหวัดสกลนคร นครพนม และมุกดาหาร หรือที่เรียกกันในชื่อ “กลุ่มจังหวัดสนุก” โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอ 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1) โครงการสนุกไรซ์พลัส “SNUK RICE PLUS“ และ 2) โครงการบีฟวัลเลย์ “Beef Valley” รวมงบประมาณทั้งสิ้น 113.4 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 1,134 ล้านบาท และมีผลตอบแทนกลับคืนมาประมาณ 10 เท่า ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะบรรจุโครงการดังกล่าวในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และขอรับจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป โดยมีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้งสามของกลุ่มจังหวัดสนุก ร่วมเป็นหน่วยงานสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการ

 โครงการที่เห็นชอบในการประชุม ครม. ครั้งนี้เป็น 2 ใน 21 โครงการของกลุ่มจังหวัดสนุก ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินงาน ประกอบด้วย

 1. โครงการสร้างเศรษฐกิจกลุ่มสนุกด้วยอุตสาหกรรมแปรรูปข้าวมูลค่าสูง "SNUK RICE PLUS" (SNUK RICE+) งบประมาณ 61.4 ล้านบาท มีเป้าหมายหลักในการยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปข้าวในพื้นที่ โดยนำข้าวซึ่งเป็นผลผลิตหลักของเกษตรกรในภาคอีสาน มาพัฒนากระบวนการผลิตให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูป และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากข้าว รวมถึงการนำผลพลอยได้ (By-product) และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเพิ่มมูลค่า เช่น แป้งรำข้าว ผลิตภัณฑ์จากแกลบ หรือเยื่อข้าว อีกทั้งยังมีการสร้างแบรนด์ “สนุกไรซ์” ให้เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแก้ปัญหาเผาตอซังข้าวหลังเก็บเกี่ยว ภายใต้แนวคิด “SNUK Rice Model: พัฒนา 100 คน 110 กิจการ 150 ผลิตภัณฑ์ และสร้างโมเดลต้นแบบ 10 กิจการ” ซึ่งเน้นการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้สามารถต่อยอดอุตสาหกรรมข้าวได้อย่างยั่งยืน โดยดำเนินการยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ระดับสากล มีการสร้างเครือข่ายธุรกิจ จับคู่เจรจาทางการค้า และการพัฒนาสินค้าสู่ตลาดระดับภูมิภาคและระดับสากล นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมด้านการตลาดผ่านเทศกาลต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวด้วย




 2. โครงการยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปโคเนื้อ "Beef Valley" งบประมาณ 52 ล้านบาท มุ่งเน้นยกระดับอุตสาหกรรมโคเนื้อในกลุ่มจังหวัดสนุกให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปโคเนื้อที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพเนื้อโคในทุกมิติ ตั้งแต่สายพันธุ์ วิธีการเลี้ยง การจัดการหลังการเชือด และการแปรรูป รวมถึงการสร้างแบรนด์ “SNUK Beef Valley” พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปโคเนื้อเน้นเป็นคนรุ่นใหม่ และผู้ประกอบการในพื้นที่ 200 คน 130 กิจการ 130 ผลิตภัณฑ์ และสร้างโมเดลต้นแบบ 3 กิจการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และจัดกิจกรรมด้านการตลาดผ่านเทศกาลเนื้อ “สนุก Beef Festival” รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอุตสาหกรรม เช่น โรงเชือดมาตรฐาน โรงแปรรูปเนื้อ เครื่องจักรแปรรูป และเทคโนโลยีถนอมอาหาร รวมทั้งจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมโคเนื้อของภาคอีสานให้เป็น “ผู้นำตลาดของภูมิภาคอาเซียน” ต่อไป





 ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองโครงการเป็นต้นแบบของการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมตามนโยบายนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ในการเสริมความแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ชึ่งมาจากการวิเคราะห์ปัญหา (pain point) และเป็นความต้องการของภาคธุรกิจผ่านการประชุม กรอ. และการรับฟังความเห็นของภาคเอกชนในพื้นที่ ก่อนเสนอ ครม. รับทราบและเห็นชอบโครงการทั้งสอง นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะบุคลากร และส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่ต้องการเข้าร่วมพัฒนาในโครงการ ให้สามารถขอสินเชื่อภายใต้กองทุนเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มาเป็นเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดสนุกเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว 

 ทั้งนี้ คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในจังหวัดนครพนม จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1) บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด เพื่อติดตามผลการส่งเสริมผู้ประกอบการที่ได้รับสินเชื่อ “เสือติดปีก” วงเงิน 9 ล้านบาท ซึ่งได้เชิญผู้แทน โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ มาร่วมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจและขยายสายการผลิตเพิ่มเติม 2) วิสาหกิจชุมชนกะละแมทูลใจ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสินค้าพื้นถิ่นและของฝากที่ระลึกต้อนรับ ครม. กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งเสริมด้วยการใช้ Soft Power เพื่อให้เป็นที่รู้จักวงกว้าง รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้เก็บได้นานยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมืองไทยประกันชีวิต ส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม พาคณะผู้สูงอายุจากเขตห้วยขวาง และโรงเรียนผู้สูงอายุเขตดินแดง เข้าร่วมชมงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIA

เมืองไทยประกันชีวิต ส่งมอบความสุขและรอยยิ้ม พาคณะผู้สูงอายุจากเขตห้วยขวาง และโรงเรียนผู้สูงอายุเขตดินแดง เข้าร่วมชมงาน “101 ปี พระราชวังพญาไท” THE GLORY OF SIAM

จี๊ป ประเทศไทย เอาใจสาวกรถยนต์พันธุ์แกร่ง จัดกิจกรรม ‘JOC MEET: OUT OF TOWN TO PETCHABURI’ ขับ จี๊ป เที่ยวสุดหรรษา พร้อมสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อม